ฟุตบอลโลก นัดชิงชนะเลิศ ที่สนาม ลุซนิกิ สเตเดี้ยม เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่าน ซึ่งกลายเป็น ทัพ “ตราไก่” ทีมชาติ ฝรั่งเศส ที่เอาชนะ “ตาหมากรุก” ทีมชาติ โครเอชีย ไปแบบสุดมันส์ 4-2 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่
เริ่มเกมมาเพียงนาที 18 ฝรั่งเศส ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกตั้งเตะจังหวะที่ มาร์เซโล โบรโซวิช ทำฟาลว์ อองตวน กรีซมันน์ และเป็น กรีซมันน์ ที่เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลโดนหัว มาริโอ มานด์ซูคิช โหม่งเปลี่ยนทางเข้าไป
แต่แล้วเพียงนาที 28 โครเอเชีย ตามตีเสมอ 1-1 ได้อย่างรวดเร็ว จากลูกตั้งเตะในกรอบเขตโทษ บอลขลุกขลิกในกรอบเขตโทษ หลุดมาถึง อีวาน เปริซิช หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งผ่านมือ ฮูโก้ ยอริส เข้าไปอย่างสวยงาม SBOBET24h
นาที 36 ฝรั่งเศส มาได้จุดโทษ จากลูกเตะมุมแล้วบอลไปโดนมือ อิวาน เปริซิช ใช้มือปัดบอลออกหลัง ก่อนที่ผู้ตัดสิน เนสเตอร์ ปิตาน่า จะขอดู VAR ก่อนจะตัดสินให้เป็นลูกจุดโทษ และเป็น อองตวน กรีซมันน์ ที่รับหน้าที่ยิงบอลเรียดไปทางซ้ายสวนทางกับ ดานิเยล ซูบาซิช เข้าประตูไป ช่วงเวลาที่เหลือครึ่งแรกแม้ โครเอเชีย จะเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าแต่ทำประตูตีเสมอไม่ได้ จบครึ่งแรก ฝรั่งเศส นำ โครเอเชีย 2-1
เริ่มครึ่งหลังมา 5 นาที ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูหนีห่างจากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ กระชากบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ยิงไปตรงตัว ซูบาซิช เด้งออกหลังไป จนกระทั่งนาที 59 ตราไก่ มาได้ประตูหนีห่าง 3-1 เมื่อ เอ็มบัปเป้ กระชากบอลหลุมาถึงในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเปิดบอลมาถึง กรีซมันน์ แตะให้ ปอล ป็อกบา ได้วิ่งเข้ามายิงเล่นทางด้วยซ้ายเข้าไปอย่างสวยงาม
จากนั้นนาทีที่ 65 ฝรั่งเศส มาได้ประตูสู่แชมป์ 4-1 เมื่อคีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ซัดบอลเข้าเสาแรกไปอย่างสวยงามทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุไม่ถึง 20 ปี คนที่ 2 ต่อจาก เปเล่ ที่ยิงประตูได้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
นาที่ 69 โครเอเชีย ยังไม่ยอมไล่มาเป็น 2-4 จากจังหวะที่ ฮูโก้ ยอริส ทำพลาดในกรอบเขตโทษเมื่อพยายามจะเลี้ยงหนี แต่โดน มานด์ซูคิช ดักทางไว้ถูกยิงเข้าไปง่ายๆเลย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส, แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, ซามูแอล อุมติตี้, ลูกัส แอร์กน็องเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (สตีเว่น เอ็นซองซี่ น.54), ปอล ป็อกบา, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, อ็องตวน กรีซมันน์, แบลส มาตุยดี้ (โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ น.73), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (นาบิล เฟคีร์ น.81)
โครเอเชีย : ดานิเยล ซูบาซิช, ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วีด้า, อีวาน สตรินิช (มาร์โก ปาก้า น.82), อีวาน ราคิติช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, อันเต้ เรบิช (อังเดร ครามาริช น.71), ลูก้า โมดริช, อีวาน เปริซิช, มาริโอ มานด์ชูคิช
ขณะเดียวกัน ลูก้า โมดริช เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งทีมชาติโครเอเชีย ขึ้นแท่นรับรางวัล “โกลเด้น บอล” นักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลโลกตามคาด ขณะที่คีเลียน เอ็มบาปเป้ ที่แจ้งเกิดเต็มตัวกับทีมชาติฝรั่งเศส ซิวรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมไร้ข้อกังขาหลังยิงไปถึง 4 ประตูในบอลโลกหนนี้
ส่วนรางวัล “โกลเด้น บูท” ดาวซัลโวสูงสุด ไม่ใช่ของใครที่ไหน แฮร์รี่ เคน ยอดศูนย์หน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษ ที่ทำไป 6 ประตู นอกจากนี้ ธิโบต์ คูร์กตัวส์ รับรางวัล “โกลเด้น โกลฟ์” ผู้รักษประตูยอดเยี่ยมจากฟอร์มเซฟเหนียวหนึบให้ทีมชาติเบลเยียม และปิดท้ายรางวัลฟีฟ่า แฟร์เพลย์ ตกเป็นของทีมชาติสเปน
บทสรุปรางวัลฟุตบอลโลก
แชมป์ : ฝรั่งเศส (สมัยที่ 2)
รองแชมป์ : โครเอเชีย
อันดับ 3 : เบลเยียม
อาดิดาส โกลเด้น บอล (นักเตะยอดเยี่ยม) SBOBET
1. ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย)
2. เอแด็น อาซาร์ (เบลเยียม)
3. อ็องตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส)
นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม
คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ (ฝรั่งเศส)
ราวัล แฟร์ เพลย์
ทีมชาติสเปน
อาดิดาส โกลเด้น โกลฟ (ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม)
ติโบต์ กูร์กตัวส์ (เบลเยียม)
ดาวซัลโว
1. แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ) 6 ประตู
2. อ็องตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส) 4 ประตู 2 แอสซิสต์
3. โรเมลู ลูกากู (เบลเยียม) 4 ประตู 1 แอสซิสต์
